ภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเคยเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจจีน เริ่มตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ บริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ (China Evergrande) ยักษ์ใหญ่เบอร์ 2 ด้านอสังหาฯ ของจีน ประสบปัญหาหนี้สินอย่างหนักจนถึงขั้นผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่รัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้กฎเกณฑ์ใหม่ในการควบคุมปริมาณหนี้และการกู้ยืมเงินก้อนใหม่ของอสังหาฯ เจ้าต่าง ๆ ในประเทศ

แม้ผู้เชี่ยวชาญจะเคยเสนอให้ทางการเข้ามาช่วยเหลือ แต่รัฐบาลปักกิ่งยืนยันจะไม่เข้าไปแทรกแซง หรือมอบเงินช่วยเหลือบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นอันขา

จีนเตรียมส่งยาน “ฉางเอ๋อ-6” สำรวจดวงจันทร์ปี 2024 คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา คว้าแชมป์โมโตทูเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ 2023

เพราะเชื่อว่าจะเป็นการสร้างตัวอย่างที่ไม่ดีแต่ปัญหาของเอเวอร์แกรนด์ลุกลามกลายเป็นวิกฤตที่ใหญ่กว่านั้น และสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งระบบการเงินของจีน โดยนอกจากจะกระทบลูกค้า ที่จ่ายมัดจำซื้อที่พักอาศัยของบริษัทไปแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มมีการก่อสร้าง ยังพลอยทำให้อีกหลายบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมกับเอเวอร์แกรนด์ อาทิ บริษัทออกแบบ บริษัทก่อสร้าง และบริษัทขายวัสดุต่าง ๆ เสี่ยงล้มละลายไปด้วย

แม้แต่ บริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ของจีนอย่าง "คันทรี การ์เดน โฮลดิงส์" ก็เสี่ยงผิดนัดชำระหนี้มาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อบ้านลดลง และกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน ข้อมูลล่าสุดที่สำนักสถิติแห่งชาติจีน เก็บจนถึงสิ้นเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ชี้ว่า ขนาดพื้นที่ที่พักอาศัยในประเทศ ที่ยังขายไม่ได้ในเวลานี้ รวมกันแล้วอยู่ที่ 648 ล้านตารางเมตร ซึ่งหากนำมาคำนวณ โดยอ้างอิงจากขนาดบ้านปกติทั่วไป ที่มีพื้นที่เฉลี่ย 90 ตารางเมตร คาดว่าพื้นที่ดังกล่าว เทียบเท่ากับบ้านประมาณ 7.2 ล้านหลัง

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า พื้นที่ว่างเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นบ้านและอะพาร์ตเมนต์ที่เหล่านักเก็งกำไรเคยกว้านซื้อไว้ในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังเป็นขาขึ้นในปี 2016 ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังคงว่างอยู่ และอีกส่วนหนึ่งคือบ้านจากโครงการต่าง ๆ ซึ่งขายไปหมดแล้ว แต่ยังสร้างไม่เสร็จ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องกระแสเงินสด เหอ เคิง อดีตรองผู้อำนวยการสำนักสถิติ วัย 81 ปี ประเมินเรื่องจำนวนบ้านในจีนที่ว่างอยู่ตอนนี้ โดยมองว่า ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนคาดการณ์ตัวเลขแตกต่างกันออกไป แต่จากการประเมินในกรณีที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จำนวนบ้านว่างน่าจะมากพอรองรับประชากรได้มากถึง 3,000 ล้านคน

นายเหอ กล่าวระหว่างงานฟอรัมในเมืองตงกว่านว่า ตัวเลขที่เขาคาดการณ์อาจจะมากเกินไปสักนิด แต่มั่นใจว่าประชากรจีนทั้งหมด 1,400 ล้านคน ก็ยังไม่พอเติมเต็มบ้านว่างเหล่านี้อย่างแน่นอน การแสดงความเห็นเชิงลบของอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงกับข้อมูลของรัฐบาลปักกิ่ง ที่บอกว่า เศรษฐกิจของประเทศเริ่มจะฟื้นตัวแล้ว โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในงานแถลงข่าวล่าสุดว่า ช่วงนี้มีคนออกมาคาดการณ์เรื่องการล่มสลายของเศรษฐกิจจีนบ่อยครั้ง แต่สิ่งที่ควรล่มสลายไปจริง ๆ คือ เสียงวิจารณ์เหล่านั้น ไม่ใช่เศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกัน วิกฤตหนี้ของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ยังคงสั่นสะเทือนตลาดเงินอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัท จนร่วงลงมาถึง 24% ในช่วงหนึ่งของการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกง หลังจากที่บริษัทประกาศว่าไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ เนื่องจากเหิงต้า เรียล เอสเตต กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ กำลังถูกทางการตรวจสอบ ฐานละเมิดกฎหมายการเปิดเผยข้อมูล ขณะที่หุ้นตัวอื่น ๆ ในภาคอสังหาฯ จีน ก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย โดยช่วงหนึ่ง ปรับตัวลดลงไปถึง 3.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน โดยขณะนี้ เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้มากที่สุดในโลก กำลังพยายามเจรจากับเจ้าหนี้ในต่างประเทศ ให้อนุมัติแผนการปรับโครงสร้างหนี้ ที่มีมูลค่าถึง 31,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1.12 ล้านล้านบาท ซึ่งรวมถึงพันธบัตร หลักประกัน และภาระหนี้ผูกพันที่ต้องซื้อคืน จนหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า นี่น่าจะเป็นหนึ่งในกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก อย่างไรก็ตาม หากแผนปรับโครงสร้างหนี้ล้มเหลว และเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใหม่กับเจ้าหนี้ได้ ท้ายที่สุด อาจนำไปสู่การยกเลิกกิจการ ปัจจุบัน บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ เป็นเจ้าของโครงการต่าง ๆ มากกว่า 1,300 แห่ง ในกว่า 280 เมืองทั่วประเทศจีน และยังขยายธุรกิจออกไปมากกว่าเรื่องการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาทิ ธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ยังเป็นเจ้าของหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดของจีน นั่นคือ กวางโจว เอฟซี (Guangzhou FC)