‘ฟอร์ด เรนเจอร์’กระบะรุ่นล่าสุด 2022 หน้าใหม่ขับสนุก
ฟอร์ด เรนเจอร์ 2022 เป็นรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายฟอร์ด เพิ่งจะมีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมาล่าสุด ฟอร์ด ประเทศไทย นำสื่อมวลชนร่วมกิจกรรมทดสอบขับรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ในกิจกรรม Unlimit Your Experience เป็นครั้งแรก บนเส้นทางภูเก็ต-พังงา-กระบี่ เพื่อสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ทั้งบนถนนและแบบออฟโรด พร้อมระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทันสมัย ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถได้อย่างเหนือชั้นผ่านแอพพลิเคชั่น ฟอร์ด พาส ยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ขับขี่ที่มองหารถเพื่อใช้ทั้งในการทำงานเป็นรถสำหรับครอบครัวและการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน
สำหรับรถฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ที่ทาง “เดลินิวส์” ได้รับมาใช้ในการทดลองขับในครั้งนี้เป็นรุ่นดับเบิลแค็บ ไวลด์ แทรค 2.0แอล เทอร์โบ เอชอาร์ 6 เอที ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมทั้งติดตั้งระบบเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง ฟอร์ด เรนเจอร์ แพ็กเกจ B ราคา 50,000 บาท ซึ่งทำให้ค่าตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.049 ล้านบาท เป็น 1.099 ล้านบาทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกนั้นได้รับการปรับเปลี่ยนในส่วนของกระจังหน้าโฉมใหม่ (ที่ดูคล้ายฟอร์ด บรองโก้) ไฟเดย์ไลท์ใหม่รูปตัว C ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และเพิ่มบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลังที่ทำให้การขึ้นลงท้ายกระบะเป็นเรื่องง่ายขึ้น
นอกจากนี้ภายในกระบะท้ายยังออกแบบให้รองรับการจัดเรียงสิ่งของให้เป็นระเบียบในหลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งเพิ่มช่องจ่ายไฟ 2 ช่อง คือแบบ DC ขนาด 12 โวลต์ และแบบ AC ขนาด 230 โวลต์ เพื่อใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า อย่างหม้อหุงข้าวหรือเตาอบขนาดเล็กได้ง่าย ๆ เพียงเสียบปลั๊กกับตัวรถและฝาท้ายที่ติดตั้งระบบผ่อนแรงฝากระบะท้าย ช่วยผ่อนแรงในการเปิดปิดฝากระบะท้าย ส่วนไฟหน้าก็ออกแบบใหม่เป็นรูปตัว C เช่นเดียวกับไฟเดย์ไลท์หน้า
ในส่วนของโครงสร้างแชสซีก็มีการปรับปรุงใหม่ในหลาย ๆ จุด แต่หลัก ๆ คือการยืดความยาวของฐานล้อขึ้นเป็นอีก 50 มม. เป็น 3,270 มม. ทำโดยการขยับล้อคู่หน้าไปข้างหน้าให้เข้าใกล้กันชนหน้ามากขึ้นกับขยายความกว้างระหว่างล้อซ้าย-ขวาขึ้นอีก 50 มม. และปรับรูปแบบการติดตั้งโช้คอัพหลังใหม่ มีผลทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ มีมุมเข้าหาเนินที่เพิ่มขึ้น ระบบช่วงล่างมีความนิ่มนวลแต่ยังคงให้ความมั่นคงในการยึดเกาะถนนที่ดีเช่นเดิม ส่วนระบบเบรกก็จะเป็นแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ และใช้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ใส่กับยางขนาด 255/65R18
การออกแบบภายในห้องโดยสารมีจุดที่น่าประทับใจที่สุด ก็คือประตูเปิดได้มุมกว้างมากช่วยให้การเข้าออกได้ง่าย แถมพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางมาก เบาะคู่หน้ามีขนาดใหญ่และสูงนั่งได้สบาย การปรับเบาะด้านคนขับสะดวกสบายด้วยระบบไฟฟ้า มุมมองโดยรอบมองเห็นได้ชัดเจนดีมาก
สำหรับชุดแผงหน้าปัดใหม่ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูหรูหราและล้ำสมัยด้วยระบบเชื่อมต่อการสื่อสารที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถควบคุมและใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวกกว่าเดิม ผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 12 นิ้ว ที่เชื่อมกับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® ซึ่งเป็นระบบความบันเทิงรุ่นล่าสุดของฟอร์ดและแผงหน้าปัดเป็นแบบดิจิทัลใหม่สามารถแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถได้อย่างหลากหลายเต็มรูปแบบ
ส่วนพื้นที่ของเบาะหลังนั้นแม้จะถอยตัวเบาะหน้ามาจนสุดแล้วแต่ก็ยังไม่ชนกับเข่าของผู้โดยสาร (ความสูง 180 ซม.) ตอนหลังเลย การออกแบบพื้นที่เก็บของใต้ที่นั่งเบาะหลังใหม่เพิ่มที่เก็บสัมภาระของทุกคนในครอบครัวได้ โดยที่นั่งยังคงกว้างขวางสะดวกสบาย เรื่องการเก็บเสียงที่ความเร็วต่ำกว่า 120 กม./ชม. ถือว่าทำได้ดีมาก แต่ความเร็วสูงกว่านี้จะได้ยินเสียงลมปะทะกับกระจกมองข้างขนาดใหญ่ดังขึ้น
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร ที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีจุดเด่นอยู่ตรงที่สามารถเรียกแรงบิดสูงสุดมาใช้ได้ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ ๆ ทำให้มันเป็นรถที่มีอัตราเร่งออกตัวที่ดีน่าพอใจ ส่วนในช่วงความเร็วกลาง ๆ ตั้งแต่ 60 กม./ชม. ขึ้นไป ก็ยังให้ความรู้สึกถึงการพุ่งออกตัวที่กระฉับ กระเฉงได้ดั่งใจ แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่มากทำให้อัตราเร่งช่วงความเร็วปลายแผ่วลงบ้าง การทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีความต่อเนื่อง ไร้อาการสะดุด ยิ่งเป็นตอนที่ต้องขับขึ้นลงทางลาดชันมาก ๆ จะให้ความรู้สึกที่ราบเรียบไร้อาการกระชาก ขณะเปลี่ยนอัตราทดแต่การเลือกวิธีเปลี่ยนเกียร์แบบแมนนวลด้วยปุ่ม +/- ที่หัวเกียร์นั้นก็ยังไม่สะดวกในการใช้งาน
ในด้านของสมรรถนะการขับขี่บนถนนปกติ การตอบสนองของพวงมาลัยช่วงออกตัวหรือขับช้า ๆ ควบคุมง่ายและเบาแรงดี แต่ก็ทำให้ขาดความแม่นเมื่อใช้ความเร็วสูง ๆ และยังคงมีวงเลี้ยวที่กว้างมากเช่นเดิม ระบบช่วงล่างมีการทำงานที่มั่นคงและยึดเกาะถนนได้ดี และแม้ว่าที่ล้อหลังจะใช้ระบบกันสะเทือนแบบแหนบแต่ก็ยังให้ความนิ่มนวลแทบจะไม่ต่างไปจากรถที่ใช้ระบบสปริงขดที่ใช้ในรถเอสยูวีเลย สำหรับการทำงานของระบบเบรกแบบดิสก์ทั้ง 4 ล้อ ในรุ่นไวลด์แทรคนั้นสามารถหยุดรถได้อย่างวางใจแม้จะเป็นถนนที่เปียกลื่นแบบในวันทดลองขับที่ฝนตกมีตลอด
โดยรวมแล้วถ้าชอบรถแต่งสวยจากโรงงานนั่งสบายขับสนุกมาตรฐานความปลอดภัยมีมาให้เพียบพร้อม ในราคาไม่แรงมาก ดับเบิลแค็บ ไวลด์แทรค 2.0แอล เทอร์โบ เอชอาร์ 6 เอที ที่ราคาถูกกว่ารุ่นเกียร์ 10 สปีดอยู่ถึง 110,000 บาท ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถนำส่วนต่างของราคาไปซื้อเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูงฟอร์ด เรนเจอร์ แพ็กเกจ B ราคา 50,000 บาทมาติดเพิ่มได้อีกด้วย.